เมืองลาว - ปากเซ

้https://lo.wikipedia.org/wiki/ເມືອງປາກເຊ เมืองปากเซ ( Pakse District ) เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสัก ( Champasak Province ) ตั้งรวมเอาปากเซ โดนที่ปองใส่แม่นํ้าโขง มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 180 กม2 มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือถึงใต้ประมาณ 15 กม. และทางทิศตะวันออกถึงตะวันจก ประมาณ 15 กม. และมีประชากรทั้งหมด 87000 คน ( ในปี 2009 ) ทิศเหนือติดกับเมืองชนะสัมบูรณ์ ทิศตะวันออกติดกับเมืองเจียงเจริญสุข ทิศใต้ติดกับเมืองปทุมพร และทิศตะวันตกติดกับแม่นํ้าโขง ซึ่งตรงกันข้ามกับเมืองโพนทอง

เมืองปากเซได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 โดยจักรพรรดิฝรั่ง และได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสักในปีต่อมาโดยเปรียบแทนเมืองโพนทองและจำปาสัก เมืองปากเซ ประกอบด้วย 42 บ้าน ซึ่งได้แบ่งออกคือ

1. บ้านดอนเซาะ

2. บ้านแก้วชัน

3. บ้านดงเกาะโลง

4. โพนสีใค

5. บ้านห้วยเลา

6. บ้านแก้งเกิง

7. คันเกิง

8. บ้านโพนงาม

9. บ้านกักเดื่อ

10. บ้านท่าไร

11. บ้านสะพานไช

12. บ้านท่าหิน

13. บ้านห้วยปูน

14. บ้านหลักเมือง

15. บ้านปากเซ

16. บ้านท่ง

17. บ้านหลักเมือง

18. บ้านท่าหลวง

19. บ้านโพนไซ

20. บ้านร่องขยอม

21. บ้านสางนํ้ามัน

22. บ้านโพนสะอาด

23. บ้านแก

24. บ้านโพตาก

25. บ้านแร่

26. บ้านซ้ง

27. บ้านนาเจียง

28. แก้วสัมพันธ์

29. บ้านโนดู่

30. บ้านโพนสะหวัน

31. บ้านสนามไซ

32. บ้านสอนสะหวัน

33. บ้านโชกอำนวย

34. บ้านนาแหก

35. บ้านโนนสว่าง

36. บ้านคอนไห

37. บ้านกาง

38. บ้านห้วยยางคำ

39. บ้านพัดทะนา

40. บ้านจัดสัน

41. บ้านพูม่วง

42. บ้านโพนกง

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและโด่งดังของเมืองคือ อาดีพระราชวังของ สเด็จบุญอุ้ม ณ จำปาสัก ( โรงแรมจำปาสักพาเลดส์ ) วัดพระบาท วัดหลวง บ้านแก้วสำพัน และ แคมโขง พระราชวังเสด็จบุญอุ้ม เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1963 และสำเร็จในปี 1965 และเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศลาวที่เคยมีมาจนถึงปัจจุบัน วัดพระบาท เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองปากเซ ซึ่งมีอายุได้ 110 ปีแล้ว และมีร่องรอยพระธาตุของพระพุทธเจ้า วัดหลวงเป็นวัดที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 แต่ว่ามีสถาปัตยกรรมอันสวยงามและเป็นสถานที่ตั้งของวิทยาลัยสงฆ์ แขวงจำปาสัก บ้านแก้วสัมพันธ์ เป็นบ้านที่ตั้งของตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองปากเซ ที่ยังหลงเหลืออยู่ นั่นคือ ตลาดแลงหลัก 2 ( ตลาดสบายดีในปัจจุบัน ) และเคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารของจักรพรรดิฝรั่ง ในสมัยที่ลาวเป็นเมืองขึ้น พร้อมทั้งมีทิวทัศน์ทุ่งนาที่สวยงาม แคมของเมืองปากเซและทุกๆแลงของทุกๆวัน คนปากเซจะพากันหลั่งไหลไปนั่งตากลม เป็นจุดนัดพบอันสำคัญ ชมทิวทัศน์ของเมืองโพนทองและพูสะเห้ย และชมตะวันติก ลับขอบฟ้า กับสายนํ้าโขงที่สวยงาม

กุหลาบปากเซ

ปากเซ ดินแดนที่ถูกขนานนามว่า แดนอู่ข้าวอู่ปลา ตอนใต้สุดของลาวเรา ปากเซเป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสัก ที่ตั้งอยู่เลียบตามริมแม่นํ้าโขง และแม่นํ้าเซโดน ที่ไหลมาจากฝั่งทางแขวงสาละวัน ที่แม่นํ้าทั้งสองไหลมาบรรจบกันนั้นเรียกว่า สับเซ และเป็นที่นักท่องเที่ยวจากภายใน และต่างประเทศใฝ่ฝันอยากไปเห็น เพราะว่านํ้าอยู่ทีี่สับเซ จะเป็นนํ้าสองสีที่สองแม่นํ้าไหลมาบรรจบกัน โดยเฉพาะยามตะวันใกล้ตกดินนั้นมีความสวยงามที่สุดบวกกับอากาศ อันเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งกินลมชมวิว และถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสมัยก่อน สปป.ลาว ของเราตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของฝรั่ง เช่นเดียวกับปากเซที่เคยเป็นยุทศาสตร์ที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางในเขตภาคใต้ลาวของฝรั่งในสมัยนั้น จึงทำให้ปากเซ ปัจจุบันนี้ ยังมีคำอธิบายทำแบบยุโรปหลงเหลืออยู่ เช่น ตึก อาคารเก่าแก่ต่างๆ ที่พูดได้ว่าเป็นสเน่ห์หนึ่งให้แก่ผู้พบเห็น ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และสวยงามแบบคลาสสิค ของเมืองปากเซนี่เองจึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉาก สำคัญๆ ในภาพยนต์เรื่อง สบายดี หลวงพระบาง , สบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ ที่โด่งดังทั้งในลาวและต่างประเทศ นอกจากตึกอาคารเก่าแก่ที่สวยงามแล้ว ปากเซยังมีเสน่ห์อีกหนึ่ง คือ อาหารการกินที่ยังคงความเป็นภาคใต้ไว้ได้ดีที่สุดนั้นก็คือ อาหารเมนูที่เกี่ยวกับปลา ถ้าท่านอยากกินส้ม หรือ ก้อยปลาแม่นํ้าโขงแบบเอกลักษณ์ภาคใต้แท้ๆ ลองไปเที่ยวปากเซแล้วท่านจะได้สัมผัสกับรัฐชาติที่แท้จริง บรรยากาศในตอนคํ่าคืนของปากเซ ก็เต็มไปด้วยแสงสีที่มีการประดับประดาที่สวยงาม ถ้าท่านผู้อ่านอยากสัมผัสกับบรรยากาศในยามคํ่าคืนที่ริมโขง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะว่าเป็นสถานที่ที่ทุกคนไปพักผ่อนหย่อนใจ

นอกจากนั้นอ้อมแอ้ม เมืองปากเซยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านธรรมชาติหลายแห่ง ที่น่าสนใจ อย่างเช่น นํ้าตกตาด เช่น นํ้าตกตาดผาสวันที่อยู่ห่างจากตัวเมืองปากเซ ประมาณ 40 กม. เท่านั้น นอกจากนั้นยังมี ตาดฟาน ตาดเยือง และแหล่งอื่นๆอีก

นอกจากนั้น ถ้าท่านต้องการดูผ้าไหมแดนใต้ท่านก็สามารถไปดูได้ที่บ้านสะผาย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ที่มีชื่อเสียงของเขตใต้ลาว ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองปากเซ ประมาณ 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ถ้าหากว่าท่านต้องการซื้อเครื่องประดับ หรือ เครื่องหัตถกรรม ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ตลาดดาวเรือง ศูนย์การค้าจำปาสัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศนิยมไปกันที่สุด ( โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากไทย ) เพราะว่าเครื่องมีหลากหลายประเภทให้เลือกและราคาถูก บวกกับนํ้าใจของชาวเมืองปากเซที่ยินดีต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จนได้แายาว่า ไทใต้พี่น้องมาก กุหลาบปากเซ คือชื่อเพลงที่ร้องเพื่อสรรเสริญ และยกย่องความงกงามของดินแดนแห่งนนี้ ก็คือนํ้าใจของสาวเมืองปากเซที่จะไม่มีวันเหือดแห้งโดยการใช้ดอกกุหลาบเพื่อเปรียบเทียบ